เคล็ด (ไม่) ลับ ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย 100% และยังช่วยให้อุปกรณ์ไม่พังอีกด้วย

- เสียบปลั๊กเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
​- หลังจากนั้นควรกดปุ่มเพื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง

- อุปกรณ์ที่นำมาต่อมากเกินไป (OverLoad) ควรปลดโหลดบางตัวที่ไม่จำเป็นออก
- หลังจากนั้นควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง

- UPS อาจมีอุปกรณ์ต่อพ่วงเกินกำลัง (OverLoad) ควรตรวจสอบอุปกรณ์ที่นำมาต่อ ว่ากินกำลังไฟเกินค่าวัตต์ของ UPS หรือไม่
- จากนั้นปลดโหลด แล้วลองเปิดเครื่อง UPS ใหม่อีกครั้ง

- ตรวจสอบฟิวส์ที่หลังเครื่องว่าเด้งออกมาหรือไม่ ถ้าฟิวส์เด้งออกมา ต้องกดเข้าไปใหม่
- ตรวจสอบสายไฟหรือรางปลั๊กไฟที่นำ UPS ไปเสียบ หรือลองย้ายที่เสียบปลั๊ก UPS ใหม่

- ตรวจอุปกรณ์ที่นำมาต่อมากเกินไป (OverLoad) ควรปลดโหลดบางตัวที่ไม่จำเป็นออก
- ตรวจเช็คว่าปลั๊กหลวมหรือไม่ และลองย้ายที่เสียบปลั๊ก UPS ใหม่

- ปิดเครื่อง UPS แล้วลองเปิดใหม่
- ถ้ายังไม่หาย ควรติดต่อศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียด

- เสียบปลั๊กเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- จากนั้นทำการกดปุ่มเพื่อเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง

- สังเกตที่ Load Level ว่าโหลดขึ้นเต็มหรือไม่ ถ้าขึ้นเต็ม ควรปลดโหลดบางตัวที่ไม่จำเป็นออก
- สังเกตที่ Battery Level ว่าขึ้นเต็มหรือไม่ ถ้ายังไม่เต็ม ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง

- สังเกตที่หน้าจอว่ามีคำว่า (OVERLOAD) หรือไม่ ถ้ามีควรปลดโหลดบางตัวที่ไม่จำเป็นออก แล้วลองทำการเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง

- ตรวจสอบฟิวส์ที่หลังเครื่องว่าเด้งออกมาหรือไม่ ถ้าเด้งออกมา ต้องกดเข้าไปใหม่
- ตรวจสอบสายไฟ หรือรางปลั๊กไฟที่นำ UPS ไปเสียบ หรือลองย้ายที่เสียบปลั๊ก UPS ใหม่

- ควรปิดเครื่องแล้วลองเปิดใหม่ ถ้ายังไม่หายควรติดต่อศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียด

- เช็คได้จาก Serial number บนเครื่อง , ใบรับประกัน และใบเสร็จที่ซื้อเครื่อง UPS

- สามารถรองรับได้ทั้ง Windows, Linux ,Mac

- สามารถสังเกตได้จากแผ่นกระดาษคำแนะนำวิธีการดาวน์โหลด โปรแกรมฯ ที่อยู่ในกล่อง

- เปิดโปรแกรม - Setting - General setting - Communication Type - เลือก Mega(USB) - Ok